เป็นเรื่องราวของ อู๋หมิงฮั่น ตำรวจหนุ่มแมนทั้งแท่งที่โดนหมายหัวว่าเป็นคนเหยียดเพศและเขาก็กลัวผีแบบสุดขีด เขาบังเอิญหยิบจับซองแดงของงานแต่งงานขึ้นมาระหว่างกำลังรวบรวมหลักฐานในคดีที่รับผิดชอบอยู่ ไม่นานเขาก็พบว่าตัวเองได้หมั้นหมายกับ เหมาปังหยู เกย์หนุ่มน่ารักที่เสียชีวิตกะหันทันด้วยสถานการณ์ท่ามกลางปริศนา ทำให้ชายทั้งสองต้องมาร่วมไขคดีและหาความยุติธรรมให้กับดวงวิญญาณ  ดูหนังชนโรง เฉิงเว่ยหาว” ผู้กำกับแฟรนไชส์หนังผีไต้หวัน The Tag-Along มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้างเรื่องนี้ ถือว่าปรับโหมดเบา ๆ สำหรับเขาเหมือนกัน แต่เขาก็หยิบเอาประสบการณ์ที่คุ้นเคยจากการสร้างหนังผีผสมผสานเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ด้วย ทำให้กลายเป็นหนังตลกคลุกเคล้าความหลอนแบบกรุบกริบ ที่่ทำออกมาได้ในจังหวะที่ลงตัวแทบจะทั้งเรื่อง หนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นสุด ๆ ของ Marry My Dead...

Heartstopper 2 เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น ซีซั่น 2 ยังคงดัดแปลงมาจากเรื่องราวต้นฉบับจากนิยายภาพของ “อลิซ โอเซนแมน” เล่าเรื่องต่อจากซีซั่นก่อน ชาร์ลี กับ นิค ที่มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมากยิ่งขึ้น แต่พวกเขากลับยังไม่พร้อมที่จะก้าวออกไปเผชิญหน้ากับสังคมในชีวิตประจำวัน และนี่คือบททดสอบครั้งใหม่และยิ่งใหญ่ระหว่างพวกเขา ที่จะต้องเตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ทุก ๆ อย่างที่จะถาโถมใส่เข้ามา เมื่อการตัดสินใจนั้นมาถึง ดูหนังชนโรง ต้องบอกเลยว่า Heartstopper ซีซั่น 2 กลับมาด้วยการยกระดับและพัฒนาการของบทละครแบบขั้นกว่าเลย เพราะมันกลายเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยรสชาติมากมาย...

 มันคือบทสุดท้ายในเรื่องราวสุดสยองของครอบครัวแลมเบิร์ต เพื่อจบเรื่องและส่งเหล่าปีศาจกลับไปยังหลุม เมื่อ จอช และลูกชาย ดัลตัน ต้องดำดิ่งลงไปในโลกวิญญาณให้ลึกกว่าที่เคย เพื่อเผชิญหน้ากับอดีดอันดำมืดของครอบครัวและพบกับความสยองขวัญครั้งใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูผีผ่าน ดูหนังชนโรง ในภาคนี้ได้ “แพทริค วิลสัน” มานั่งเก้าอี้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ ควบคู่ไปกับการกลับมาแสดงนำให้หนังเรื่องนี้อีกครั้ง ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของนักแสดงหนุ่มที่คร่ำหวอดในวงการมาอย่างนาน แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็รู้สึกกับแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี และรู้ดีว่าควรจะใส่และเก็บอะไรไว้ในหนังเรื่องนี้ โดยที่ไม่ลืมที่จะใส่วิสัยทัศน์ในฐานะนักสร้างของเขาเข้าไปด้วย แม้ว่าบทหนัง Insidious: The Red Door จะค่อนข้างอ่อนเกือบทุก...

 เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ประหลาด ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขาทั้ง 3 คน ฟอนเทน, สลิก ชาร์ลส์ และ โยโย่ ต้องจับพลัดจับผลูมาสืบเรื่องแผนสมคบคิดของรัฐบาลโฉด ที่นำพาไปสู่ห้องลึกลับชั้นใต้ดินขนาดใหญ่ที่นั่นเป็นเหมือนห้องทดลองที่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลในการทดลองกับประชากรคนผิวสีในท้องถิ่น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาตระหนักว่าจะต้องยืดหยัดสู้กับพวกคนผิวขาว เพื่อปกป้องเพื่อนบ้านและชุมชน ว้าว! สารภาพตรง ๆ นะ เลยว่าทีแรกค่อนข้างรู้สึกเฉย ๆ กับหน้าหนังเรื่องนี้ ในใจคิดว่ามันมันก็คงเป็นหนังแนวโคลนนิงสูตรสำเร็จที่น่าจะพอเดาทางออกได้ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละ แต่มันแอบซ่อนทีเด็ดของมันเอาไว้อยู่ ตรงที่มีกิมมิกและชั้นเชิงในการลำดับเรื่อง...

 เป็นเรื่องราวของอดีตทหารได้ขุดค้นพบขุมทองในพื้นที่อันรกร้างในภูมิภาคแลปแลนด์ และเขาพยายามที่จะเดินทางนำเอามันไปขายที่ธนาคารในเมือง แต่ระหว่างทางเหล่าทหารนาซีที่นำโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเอสเอสจอมโหดก็มาขวางทางและเปิดฉากต่อสู้กับเขา สัญชาตญาณนักสู้ไม่ถอยของเขาได้กลับมาพลุ่งพล่าน ก็สามารถรีวิวหนังเรื่องนี้ออกมาได้สั้น ๆ เลยว่า…มันส์มาก เป็นหนังที่มีพล็อตอยู่แค่หยิบมือเดียว แต่สาธยายออกมาเป็นหนังแอคชั่นสุดโหดที่มีความยาว 90 นาทีได้สาแก่ใจอีช้อยยิ่งนัก ตัวหนังไม่ต้องเอาสาระหรือเนื้อหาอะไร เพราะดูเอามันส์ก็เพียงพอและคุ้มค่าตั๋วแล้ว นี่คือหนังจากฟินแลนด์ของผู้กำกับท้องถิ่น ”ยาลมารี เฮแลนเดอร์” ที่มีประสบการณ์สร้างหนังในวงการหนังที่นั่นมานับสิบ ๆ ปีแล้ว ส่วนการดีไซน์ฉากแอคชั่นถือว่าถึงใจถึงอารมณ์ไม่น้อยเลย ถึงจะเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบคุ้นเคย แต่เป็นความคุ้นเคยที่ยังเวิร์กได้ดี และส่งมอบอรรถรสที่จัดจ้านต่อคนดูได้อย่างถึงแก่น กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยฉากบู๊ดิบเถื่อนโดนใจ และตอบโจทย์ในสิ่งที่คนดูต้องการอยากจะเห็นเป็นอย่างมาก กลายเป็นหนังองค์ประกอบง่าย...

 เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนชาวเอเชียน-อเมริกัน ทั้ง 4 นาง ประกอบด้วย ออเดรย์ ทนายความสาวอนาคตกำลังรุ่ง โลโล่ อาร์ตติสที่ชีวิตยังไร้แพลน แคท ดาราสาวซีรีส์จีนสุดปัง และ เดดอาย ผู้มีเอกลักษณ์ที่แววตา พวกนางได้ออกเดินทางไปยังทวีปและวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย เพื่อตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดของออเดรย์ แต่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งไม่คาดฝันตลอดทั้งทริปนี้..! ถ้าให้นิยามแบบตรง ๆ แล้วละก็ Joy Ride แก๊งตัวเจ๊ เฟียสกีข้ามโลก ก็คือพวกหนังตลกสัปดน หยอดมุกทะลึ่งตึงตังตลอดทั้งเรื่อง...