เมื่อพ่อมดผู้ทรงพลังมืดอย่าง เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ กำลังมีแผนการร้ายที่ต้องการจะควบคุมโลก ศาสตราจารย์ อัลบัส ดับเบิ้ลดอร์ ได้รับรู้ถึงเรื่องราวนี้และไม่มีทางไหนเลยที่เขาจะสามารถยับยั้งการกระทำนี้ได้ จึงส่งให้ ลูกศิษย์คนโปรดสัตวเวทมนตร์วิทยา อย่าง นิวต์ สคาร์มันดอร์ ให้เป็นผู้นำเหล่าพ่อมดแม่มดผู้กล้าหาญและมักเกิ้ลนักอบขนมปังที่แสนกล้าหาญอีกคนไปสู้ภารกิจที่แสนอันตรายที่นั่นเพราะเขาต้องปะทะกับสัตว์วิเศษทั้งเก่าและใหม่รวมถึงกองทัพพูดตามของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ และเดิมพันครั้งนี้สูงขึ้นเรื่อยๆดัมเบิลดอร์จะสามารถหยุดได้หรือไม่

กว่าจะเดินทางมาถึงภาคนี้ ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งก็คือ การยอมถอนตัวของนักแสดงหลักอย่างป๋า ‘จอห์นนี เดปป์’ (Johnny Depp) เจ้าของบทบาท ‘เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์’ (a.k.a น้าหน่อย เชิญยิ้ม) ที่แพ้คดีฟ้องร้องสื่อหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ จากกรณีคดีฟ้องหย่าภรรยานั่นแหละ ผลกระทบก็คือ ป๋าเองถูกวอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros.) ขอให้ถอนตัวพร้อมกับรับเช็กเงินค่าตกใจ และเรียกใช้งานนักแสดงดาวร้ายตัวพ่ออย่าง ‘แมดส์ มิกเกลสัน’ (Mads Mikkelsen) มารับบทพ่อมดฝั่งมืดในภาคนี้แทน

เดวิด เยตส์ (David Yates) ผู้กำกับจากทั้งสองภาคแรก (และผู้กำกับจากภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์) กลับมารับหน้าที่กำกับเหมือนเดิม ‘เจ.เค.โรว์ลิง’ (J.K.Rowling) ผู้เขียนบทจากทั้ง 2 ภาค และ ‘สตีฟ โคลฟส์’ (Steve Kloves) ผู้เขียนบทแฮร์รี พอตเตอร์ทั้ง 7 ภาคมาแปะมือร่วมกันเขียนบทเป็นครั้งแรก

หลังจากที่ ‘อัลบัส ดัมเบิลดอร์’ (Jude Law) ล่วงรู้ความลับว่า ‘เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์’ (Mads Mikkelsen) เริ่มระดมกองทัพเพื่อหวังยึดครองโลกเวทมนต์ตามที่ใจปรารถนา โดยที่เขาตั้งเป้าว่า เขาและกองทัพจะโค่นล้มมักเกิลผู้ไร้เวทมนตร์ให้สิ้นซาก ด้วยกลเกมการเมืองที่เขาวางแผนเอาไว้ในพิธีการเลือกตั้งผู้นำสูงสุดแห่งโลกเวทมนตร์ พร้อมกับการควบคุม ‘ครีเดนซ์ แบร์โบน’ (Ezra Miller) และ ‘ควีนนี โกลสตีน’ (Alison Sudol) ที่แปรพักตร์มาอยู่ฝั่งของกรินเดลวัลด์แบบเต็มตัว
ตัวอย่าง