Mar
09
2022

รีวิวหนัง The Mortal Instruments นักรบครึ่งเทวดา

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ แคลรี่ (Lily Collins) หญิงสาวที่เริ่มวาดภาพและมองเห็นสัญลักษณ์บางอย่างที่คนธรรมดามองไม่เห็น วันหนึ่งเธอได้ไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอและได้เห็นการฆาตกรรมในผับแห่งหนึ่ง และเหตุการณ์นั้นฆ่าไม่มีคนมองเห็นเหตุการณ์ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อเราไปดูรีวิวกันเลย

The Mortal Instruments: City of Bones สร้างขึ้นมาจากวรรณกรรมชุด The Mortal Instruments ที่ประสบความสำเร็จของ แคสซานดร้า แคลร์ โดยหยิบเล่มแรก City of Bones มาสร้างเป็นหนัง

โดยเป็นเรื่องราวของ แครี่ เฟรย์ (ลิลี่ คอลลินส์) ที่เธอเริ่มขีดเขียนสัญลักษณ์บางอย่าง และเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ ในโลกมีสัญลักษณ์ประหลาด จนวันหนึ่งเธอไปเที่ยวในผับกับเพื่อนสนิทไซม่อน (โรเบิร์ต ชีแฮน) และได้พบการฆาตกรรมที่เธอเห็นเพียง คนเดียว จนสุดท้าย เจค (เจมี่ แคมป์เบล โบเวอร์) ผู้ที่ก่อฆาตกรรมก็ได้ปรากฏต่อหน้าเธอ ทำให้เธอรู้ว่าเธอนั้นเป็น ชาโดว์ฮัน เตอร์ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องโลกจากปีศาจ และความจริงในชาติกำเนิดของเธอก็ค่อยๆ เผยออกมา…


เรื่องราวใน City of Bones นั้นมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะและเป็นการยากที่จะถ่ายทอดรายละเอียดเหล่านั้นออกมาเป็นหนัง ด้วยเงื่อนไขเวลาอันจำกัด แต่กระนั้นก็เห็นถึงความพยายามของผู้กำกับ ฮาราล์ด ซวาร์ต ในการที่จะทำให้เราเข้าใจโลกของ  City of Bones ให้ผู้ชมเข้าใจมันให้มากที่สุด แต่มันก็แลกมากับการดำเนินเรื่องที่อืดอาด


แต่กระนั้นหนังก็ไม่ได้ใช้การสร้างโลก  City of Bones อย่างเต็มที่ให้คุ้มกับเวลาที่เสียไปในการสร้างมันขึ้นมา เพราะเรื่องราว มุ่งไปที่เรื่องราวความรักสามเส้าระหว่าง แครี่ เฟรย์ เจค และ ไซม่อน ซึ่งดูจะให้เวลาในส่วนนี้มากพอสมควร แต่มันก็ไม่ สามารถทำให้ผู้ชมอินได้ เพราะไม่สามารถทำให้เรารู้สึกว่าเหตุใดตัวละครถึงเกิดความรู้สึกรักขึ้นมา และยังต้องตัดสลับไปเล่า เหตุการณ์สำคัญที่ทำไมเธอถึงตามล่าอีก!

จะเห็นว่าหนังมีหลายเรื่องที่ต้องเล่ามากเกินไป และความต้องการที่จะเล่าทุกอย่างไม่มุ่งเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งทำให้ผลออกมา นั้นค่อนข้างน่าผิดหวัง ทั้งๆ ที่ ปัจจัยต่างๆ ในหนังเรื่องนี้เกื้อหนุนให้เป็นหนังฮิตในแบบ Twilight เรื่องต่อไปได้จริงๆ ทั้งนางเอก หน้าสวยและมีฝีมืออย่าง ลิลี่ คอนลินส์ ที่มองว่าเธอคือนักแสดงสาวอีกคนที่จะอยู่หัวแถวของฮอลลีวู้ดในอนาคต และยังมี หนุ่มหล่อในเรื่องมากมาย ที่รัศมีดาราเต็มขั้น แต่อาจไปไม่ไกลอย่างที่คิดเพราะภาพรวมของหนังยังไม่ดีพอ


ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้พอใจ ที่มีทั้งความดุดันและความขบขันในบางอย่างตั้งใจที่ทำออกมาได้ดี และเท่มากกับ การใช้อักษรรูนเขียนเป็นอักขระเวทย์ ที่ช่วยตอบข้อสงสัยว่าทำไมมีตัวละครหลายตัวบนตัวถึงเต็มไปด้วยรอยอักขระ


สิ่งหนึ่งที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังแนวนี้ คือการใส่ประเด็นของความรักเพศเดียวกันลง ซึ่งถึงแม้ตัวหนังจะไม่ได้ชี้ชัดลง ไปในประเด็นนี้ นอกจากคำพูดกล่าวของตัวนางเอก แครี่ เฟรย์ เท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นความท้าทายที่น่าสนใจกับการเล่นประเด็นความรักและหว่างชายกับชาย! ในหนังที่สามารถเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้ ไม่จำกัดเฉพาะแต่ในหนังอินดี้


แม้ภาพรวมของ The Mortal Instruments: City of Bones จะไม่อาจบอกได้ว่าเป็นหนังที่ดูสนุก แต่กับหลายอย่างที่ทำไว้กับภาคนี้ ก็ทำให้ภาคต่อไปกับ The Mortal Instruments: City of Ashes เป็นอะไรที่น่าติดตาม ว่าประเด็นต่างๆ จะได้รับการขยายเพิ่มเติมไปอย่างไร รวมไปถึงเรื่องราวของชาโดว์ฮันเตอร์ที่จะถูกเล่าอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเสียเวลากับการอารัมภบทอีกต่อไป!