รีวิว The Pirates: The Last Royal Treasure (2022)

ตำนานแห่งกองโจรสลัดในสมัยราชวงศ์โชซอนได้เกิดขึ้นจากกลุ่มโจรสลัดทั้งหมดที่พุ้งเป้าไปที่การแย้งชิงทรัพย์สมบัติของราชวงศ์โครยอที่หายสาบสูญ แล้วกองกำลังของโจรสลัดฝ่ายไหนจะเป็นผู้ครอบครองสมบัติในครั้งนี้ เมื่อพวกเขายังต้องต่อสู้กับการโจมตีจากทหารและการก่อกบฎจากภายในเรือ

รีวิว

ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน ที่มี จอห์นนี เดปป์ นำแสดงเป็นตัวเอกเด่นสุดของเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็แน่นอนเลยว่าได้แรงบันดาลใจมาเต็มๆ แต่ไม่ใช่การก็อปปี้อะไร หนังเกาหลีเองมีมาตรฐานงานที่สูงมาก ซึ่งภาพรวมบอกเลยว่านี่เป็นผลงานที่เทียบชั้นไพเรทฮอลลีวู๊ดได้เลยแน่นอน ตั้งแต่โครงเรื่องที่มีการอิงประวัติศาสตร์จริงบางส่วนแล้วเติมแต่งลงไปได้อย่างเนียนๆ โดยให้สมบัติเป็นของราชซงศ์ก่อนโชซอนที่สาบสูญ มีตัวร้ายที่อยากได้สมบัตินี้มาเพื่อสร้างเมืองของตัวเอง มีโจรสลัดที่ออกปล้นเรือญี่ปุ่นในสมัยนั้น ซึ่งก็มีจริงๆ มีแม่ทัพที่ถูกไล่ล่าหนีตายกลายมาเป็นโจรสลัด การเซ็ตโครงเรื่องตัวละครโดยไม่ต้องอิงแนวฝรั่งจ๋าอะไรแบบไพเรท แต่กลายมาเป็นสไตล์โจรสลัดเกาหลีเอเชียที่กลมกลืนเข้ากันได้ดีมากจริงๆ

สิ่งที่เทียบชั้นฮอลลีวู๊ดได้อย่างเด่นชัดที่สุดคือ งานโปรดักชั่นฉากผจญภัยที่ต้องพึ่ง CG ทำออกมาได้ดีมากจริงๆ (จากทุนสร้าง 23.5 พันล้านวอน ประมาณ 19.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) มีการเซ็ตฉากผจญภัยเสี่ยงตายที่โม้เว่อร์ใช้ได้เลย อย่างการดำน้ำใต้ทะเลไปตามกระแสน้ำดูด โดยมีน้ำเต้าเก็บอากาศไว้เติมตอนลงไป ซึ่งเราก็อดขำไม่ได้แต่ก็ซื้อไอเดียนี้แบบที่ไพเรทฮอลลีวู๊ดก็ชอบทำอะไรโม้ๆ ให้เเหมือนเป็นจริงได้ออกมาเช่นกัน หรือฉากต่อสู้ด้วยเรือรบที่แนวนี้ต้องมี เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้เหมือนเป๊ะ รวมถึงฉากการผจญภัยไปเกาะร้างลึกลับที่ระหว่างทางไปต้องเจออะไรที่ดูเว่อร์ๆ จนแทบจะเป็นแฟนตาซีนิดๆ ในเรื่องนี้มีครบถ้วน โดยครีเอทออกมาแบบไม่ซ้ำไม่ลอกไพเรทฮอลลีวู๊ดแต่อย่างใดเลย แถมยังอ้างอิงกับพวกตำนานโบราณเอเชียด้วยกันได้อย่างเนียนๆ อีกทั้งตัวขุมสมบัติก็ยังสอดแทรกเรื่องราวปรัชญาการปกครองของจักพรรดิกับไพร่ฟ้าประชาชนลงไปนิดๆ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย อันเป็นเรื่องราวของทางเอเชียโดยเฉพาะเกาหลีที่นิยมใช้บ่อยมาก

ตัวอย่าง