รีวิวหนังเกาหลี TRAIN TO BUSAN : ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง

TRAIN TO BUSAN : ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง นำแสดงโดย กงยู ที่กวาดรายได้ไปถล่มทลาย โดยหนังจะเล่า “ซอกวู”  ที่กำลังพาลูกสาวนั่งรถไฟไปหาแม่ที่ปูซาน แต่ใครจะรู้ว่าดันมีคนติดเชื้อขึ้นมาในรถไฟขบวนนั้นด้วย รถไฟที่คิดว่าจะปลอดภัยก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปเมื่อคนเริ่มกลายเป็นซอมบี้ไปทีละนิดๆ ผู้โดยสารทั้งหมดรวมถึงคนขับจะเอาชีวิตรอดจากซอมบี้พวกนี้ได้หรือไม่ต้องติดตาม

Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง หนังเรื่องนี้ก็ได้เล่าถึงเรื่องราวของผู้จัดการกองทุน “ซอกวู” (Gong Yoo) ซึ่งกำลังเดินทางไปยังปูซานโดยรถไฟกับลูกสาวของเขาชื่อว่า “ซูอา” (Kim Su-ran) เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวเขา จึงไปส่งลูกสาวให้กับอดีตภรรยาของเขาเอง แต่จู่ ๆ ก็เกิดมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไปทั่วเมือง จนเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อมีหญิงสาวที่ไม่รู้ที่มาถูกกัด แล้วหนีตายขึ้นมาบนรถไฟขบวน KTX 406 และก็เริ่มวิ่งไล่กัดคนบนรถไฟจนทำให้คนที่โดนกัดติดเชื้อแล้วกลายเป็นซอมบี้ไปด้วย แต่ด้วยความรักที่พ่อมีต่อลูกจึงต้องปกป้องและสู้สุดความสามารถจากนั้นการเอาชีวิตรอดบนรถไฟขบวนนี้จึงเริ่มต้นขึ้น

หลังจากที่ดูจนจบเรื่องบอกเลยครับว่าเป็นหนังที่สนุกมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลย โดยส่วนตัวคิดว่าบทบาทของตัวละครทุกตัวมีความน่าสนใจและไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือตัวรองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ เนื่องจากปกติแล้วหนังแนวระทึกขวัญแบบที่มีคาแรคเตอร์จะค่อนข้างตื้นเขินไม่ค่อยมีมิติอะไรเท่าไหร่ครับ แต่หนังเรื่อง “Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง” นี้ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างชัดเจนเลยครับ รู้สึกว่าจุดนี้ทำให้คนเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้นง่ายขึ้น โดยการเล่าถึงมนุษย์ธรรมดา ๆ ทั่ว ๆ ไปที่มีทั้งข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวของแต่ละคนครับ เป็นหนึ่งในหนังซอมบี้ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ความดราม่าและในแง่มุมของ effect กล้าพูดเลยว่ามีความสมจริงมาก ๆ สนุกมาก ๆ ดีงามทุกวินาทีครับและองค์ประกอบอื่น ๆ ของฉากก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย

เป็นหนังซอมบี้ที่มีความรวดเร็ว ว่องไว วิ่งไล่ตามได้อีกด้วย จึงสร้างความแปลกใหม่ได้กับหนังเรื่องนี้ครับ แม้ในตอนต้นของหนังอาจจะปูเรื่องช้าไปหน่อย เมื่อเทียบกับจังหวะหนังทั้งเรื่องครับ แต่ส่วนที่เหลือของหนังจังหวะเร็วและกระชับมากจนบางทีหายใจแทบไม่ทันเลยครับ แต่การปูเรื่องแบบนี้ก็เป็นส่วนสำคัญของเรื่องนะครับ ที่มาตอบโจทย์ทีละข้อ ๆ ในระหว่างทางของหนังไปจนถึงท้ายเรื่องได้อย่างสวยงาม ถือเป็นความลงตัวที่แทบจะไม่เคยสัมผัสได้ในหนังซอมบี้เรื่องอื่นครับ ใครจะไปเชื่อว่าการเอาตัวรอดจากซอมบี้บนขบวนรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่มันจะสนุกและทำออกมาได้หลากหลายสถานการณ์ขนาดนี้ อันนี้ขอปรบมือให้รัว ๆ